ฟองสบู่ใกล้แตก? ทำไมปี 2568 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของอสังหาริมทรัพย์ไทย

ฟองสบู่ใกล้แตก? ทำไมปี 2568 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของอสังหาริมทรัพย์ไทย

ปี 2568 กลายเป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยเผชิญกับภาวะซบเซารุนแรงที่สุดในรอบสองทศวรรษ แม้จะผ่านวิกฤตโควิดมาได้ แต่ปีนี้กลับเต็มไปด้วยแรงกดดันทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กำลังซื้อที่อ่อนแรง และภาวะตลาดที่อิ่มตัว ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า “ฟองสบู่กำลังจะแตกหรือไม่?” ในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตลาดอสังหาฯ ไทยในปี 2568 และอะไรคือสัญญาณเตือนที่ทุกคนไม่ควรละเลย

 

 

สัญญาณชัด: ปี 2568 ไม่ใช่แค่ “ขาลง” แต่คือ “จุดเปลี่ยน” 

1. อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ฉุดตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวหนัก 

ตลอดปี 2567-2568 ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อต่อกรกับเงินเฟ้อ ส่งผลให้

  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้พุ่งทะลุ 7%
  • ยอดอนุมัติสินเชื่อบ้านลดลงกว่า 25%
  • กลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกหายจากตลาดเกือบครึ่ง

 

2. ฟองสบู่คอนโดเริ่มปรากฏ: ขายไม่ออก-ปล่อยเช่าไม่ได้

โครงการคอนโดใหม่ที่เคยผุดขึ้นมากมายในช่วงปี 2560–2565 เริ่มเผชิญปัญหา

  • Supply ล้นตลาด ในเมืองใหญ่
  • ราคาขาย “ทรงตัว” หรือ “ลดลง”
  • ค่าเช่าไม่คุ้มค่าการลงทุนในบางทำเล

 

นักลงทุนที่หวังเก็งกำไรเริ่มถอนตัว และบางรายเริ่มขายตัดขาดทุน

 

3. “ใครตัด คนนั้นรอด”: เมื่อธุรกิจต้องกล้าทิ้ง เพื่อรักษาชีวิต ผู้ประกอบการเร่งระบายสต๊อก-ลดต้นทุนอย่างหนัก

ในภาวะวิกฤตที่ไม่มีใครแน่ใจว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แนวคิดแบบ “อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวก็ผ่านไป” อาจไม่ช่วยอะไร ในทางตรงกันข้าม หลายธุรกิจอสังหาฯ ที่ยังยึดติดกับแผนเดิม โครงการเดิม หรือความหวังเก่า ๆ กลับกำลังจมลึกลงเรื่อย ๆ ต่างจากผู้ประกอบการบางรายที่ “กล้าตัดแขนตัดขา” — ยอมขายขาดทุนบางยูนิต ยอมเลิกโปรเจกต์บางทำเล หรือยอมลดขนาดองค์กร เพื่อรักษา “ตัวตนหลัก” ให้อยู่รอดในสมรภูมิจริง

เพราะในสงครามเศรษฐกิจแบบนี้ “ใครตัด คนนั้นรอด” และคนที่รอด จะเป็นคนที่ได้เริ่มต้นใหม่ก่อนใคร

ผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายรายเลือก “ลดราคาบ้าน” แบบที่ไม่เคยเห็นในรอบหลายปี เช่น

  • แคมเปญลด 500,000 – 1,000,000 บาท
  • ฟรีค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าตกแต่ง
  • ผ่อน 0% นาน 12 เดือน

 

บางรายเริ่มชะลอโครงการใหม่ และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยหรือรีโนเวทโครงการเก่าแทน

 

 

ตัวเลขที่สะเทือนใจ: สถิติตลาดอสังหาฯ ดิ่งเหว

2568: ปีแห่งตัวเลขที่ทุกฝ่าย “ไม่อยากพูดถึง” 

จากรายงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) และธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง พบว่า:

  • ยอดจองบ้านใหม่ ลดลง 32% เมื่อเทียบกับปี 2567
  • ยอดโอนกรรมสิทธิ์ ลดลง 29%
  • ยอดขออนุญาตก่อสร้างโครงการใหม่ ลดลงกว่า 40%

 

ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงแค่บ่งชี้ “ภาวะชะลอตัว” แต่เริ่มสะท้อน “ความไม่มั่นใจ” ของทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการในอนาคตของตลาด

 

สรุป: จะเกิด “ฟองสบู่แตก” หรือไม่?

คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ “ฟองสบู่อสังหาฯ จะแตกจริงไหม?” คำตอบอาจไม่ใช่การแตกอย่างฉับพลันแบบปี 2540 แต่คือการ “ปล่อยลมออกช้า ๆ” ผ่านการปรับราคา ลดต้นทุน และการชะลอโครงการ ซึ่งจะส่งผลกระทบยืดเยื้ออย่างน้อย 1–2 ปีข้างหน้า

 

ข้อคิดสำหรับนักลงทุนและผู้ซื้อบ้าน 

✅ ถ้าคุณเป็นผู้ซื้อบ้าน:

  • ต่อรองราคาได้มากกว่าเดิม
  • อย่าลืมเช็กภาระดอกเบี้ยก่อนตัดสินใจ
  • โอกาสทองสำหรับคนมีเงินสด

 

✅ ถ้าคุณเป็นนักลงทุนอสังหาฯ:

  • เน้นโครงการที่มียอดขายจริง ไม่ใช่แค่โปรโมชั่น
  • ปรับพอร์ตไปที่สินทรัพย์ให้เช่าระยะยาว
  • เก็บเงินสดไว้รอจังหวะดีจริง ๆ

 

บทความอื่นๆของเรา