ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรกหรือคอนโดในฝัน “ดอกเบี้ยบ้าน” คือสิ่งที่มีผลกับกระเป๋าเงินคุณมากกว่าที่คิด
แต่คำถามสำคัญคือ…
ดอกเบี้ยลอยตัวกับดอกเบี้ยคงที่ ต่างกันยังไง?
เลือกแบบไหนคุ้มสุดในยุคเศรษฐกิจไม่แน่นอน?
แบบไหนผ่อนเบากว่าในระยะยาว?
บทความนี้จะอธิบายแบบง่าย ๆ ให้คุณเข้าใจดอกเบี้ยบ้านทั้ง 2 แบบ พร้อมคำแนะนำในการเลือกที่เหมาะกับ “สถานการณ์ทางการเงินของคุณ” และแถมทางเลือกสำรองหากคุณกำลังมีบ้านแต่เริ่ม “ผ่อนไม่ไหว”
ดอกเบี้ยบ้าน คืออะไร?
ดอกเบี้ยบ้าน = ค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่ายให้กับธนาคารหรือผู้ให้กู้สำหรับเงินที่ยืมมาซื้อบ้าน
โดยปกติธนาคารจะเสนอ 2 รูปแบบหลัก คือ:
- ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate)
- ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate)
ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate)
ดอกเบี้ยแบบคงที่คือ อัตราดอกเบี้ยที่ไม่เปลี่ยนแปลง ตามช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี
✅ ข้อดี:
- ผ่อนเท่ากันทุกเดือน ช่วยวางแผนการเงินง่าย
- ปลอดภัยจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วงแรก
- เหมาะกับคนที่มีงบจำกัด ไม่ชอบความเสี่ยง
❌ ข้อเสีย:
- เมื่อครบช่วงคงที่ อัตราดอกเบี้ยจะ “ลอยตัวอัตโนมัติ” ซึ่งอาจสูงขึ้น
- อัตราคงที่เริ่มต้นอาจสูงกว่าดอกเบี้ยโปรโมชันแบบลอยตัวช่วงแรก
ตัวอย่าง:
ปีที่ 1-3 | ดอกเบี้ยคงที่ 3.5% ต่อปี |
ปีที่ 4 เป็นต้นไป | ลอยตัวตาม MRR 6.8% – ส่วนลด |
ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate)
ดอกเบี้ยลอยตัวจะ เปลี่ยนแปลงตามภาวะตลาด โดยอิงกับอัตรามาตรฐานของแต่ละธนาคาร เช่น MLR, MRR หรือ MOR
✅ ข้อดี:
- ช่วงแรกอาจได้อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก (เช่น 0.99% ปีแรก)
- ถ้าเศรษฐกิจชะลอ ดอกเบี้ยอาจปรับลดได้
❌ ข้อเสีย:
- ผ่อนไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยตลาด
- มีโอกาสจ่ายแพงขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น
- วางแผนการเงินยากสำหรับคนงบตึง
เปรียบเทียบแบบชัด ๆ: ดอกเบี้ยคงที่ vs ลอยตัว
ปัจจัย | ดอกเบี้ยคงที่ | ดอกเบี้ยลอยตัว |
ความแน่นอนในการผ่อน | สูง | ต่ำ |
ความเสี่ยงจากดอกเบี้ย | ต่ำในช่วงแรก | สูงในระยะยาว |
เหมาะกับใคร | คนที่วางแผนรายจ่ายชัดเจน | คนที่รับความเสี่ยงได้ |
ดอกเบี้ยช่วงแรก | อาจสูงกว่าเล็กน้อย | มักเริ่มต่ำเพื่อจูงใจ |
ความสะดวกในการคำนวณ | ง่าย | ต้องคอยติดตามตลาด |
แล้วควรเลือกแบบไหนดีในปี 2025?
ปี 2025 ดอกเบี้ยบ้านยังคงอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้ม “ทรงตัวหรืออาจขยับขึ้น” ตามนโยบายการเงินของไทยและต่างประเทศ
คำแนะนำ:
- หากคุณ ไม่ชอบความเสี่ยง และอยากวางแผนค่าใช้จ่ายเป๊ะ ๆ → เลือก ดอกเบี้ยคงที่ ในช่วง 3-5 ปีแรก
- หากคุณ พร้อมเสี่ยง และคิดว่าจะรีไฟแนนซ์เร็ว → เลือกแบบ ลอยตัวที่มีโปรฯ เริ่มต้นต่ำ
ทางเลือกสำรอง: ถ้ามีบ้านอยู่แล้วแต่ดอกเบี้ยลอยตัวเริ่ม “หนักเกินไหว”
หากคุณกำลังผ่อนบ้านด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่พุ่งสูง และเริ่มรู้สึกว่าภาระผ่อนไม่ไหว
อย่าเพิ่งรีบขายบ้านทิ้ง! คุณมีอีกทางเลือกคือ…
รีไฟแนนซ์บ้าน
เพื่อเปลี่ยนดอกเบี้ยให้กลับมาต่ำลง โดยเลือกธนาคารใหม่ที่เสนอโปรดอกเบี้ยคงที่
หรือ… ขายฝากบ้าน เปลี่ยนบ้านเป็นเงินสดก้อนใหญ่
ขายฝาก คือวิธีที่เจ้าของบ้านสามารถเปลี่ยนทรัพย์สินให้กลายเป็นเงินสดโดยยังคงมีสิทธิ์ไถ่ถอนบ้านคืนภายในระยะเวลาสัญญา
ขายฝากบ้าน – ทางออกฉุกเฉินของเจ้าของบ้านยุคดอกเบี้ยแพง
จุดเด่น:
- ได้เงินเร็วใน 1-3 วัน
- ไม่ต้องตรวจเครดิต ไม่ต้องรออนุมัติจากธนาคาร
- วงเงินสูงตามราคาประเมินบ้าน
- ดอกเบี้ยรายเดือนชัดเจน ไม่ซับซ้อน
- เหมาะกับเจ้าของบ้านที่ผ่อนธนาคารไม่ไหว หรือต้องการเงินทุนด่วน
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเช็กวงเงินเบื้องต้นฟรี
โทร: 061-895-4469
หรือแชทหาเราผ่านเว็บไซต์: homeforcash.co.th
ปรึกษาก่อนตัดสินใจ ไม่ต้องขายบ้านขาดก็ได้เงินใช้
สรุป: ดอกเบี้ยบ้านแบบไหนก็มีข้อดี ถ้าเลือกให้เหมาะกับคุณ
ดอกเบี้ยบ้าน ไม่มีแบบไหนดีสุดสำหรับทุกคน แต่มีแบบที่ “เหมาะสมที่สุด” สำหรับคุณ ขึ้นอยู่กับ:
- แผนการเงิน
- รายได้ประจำ
- ความสามารถในการผ่อน
- และความเสี่ยงที่คุณรับได้
ถ้าคุณกำลังมีบ้านอยู่แล้ว และรู้สึกว่าดอกเบี้ยเริ่มหนัก
ปรึกษาทีมขายฝาก/จำนองมืออาชีพ อาจช่วยให้คุณไม่ต้องเสียบ้าน
แต่ยังใช้ประโยชน์จากมันได้ต่อไป