เมื่อคุณกู้เงินซื้อบ้าน ความคิดแรกที่มักจะตามมาคือ “การผ่อนบ้าน” ที่จะดำเนินไปอีกหลายปี การจ่ายดอกเบี้ยบ้านอาจจะทำให้รู้สึกเหมือนเป็นภาระที่หนักหนา แต่ในปี 2025 ที่ดอกเบี้ยบ้านยังคงอยู่ในระดับสูง มีวิธีที่จะช่วยให้คุณ ลดดอกบ้าน และ ผ่อนเบา ขึ้นได้ หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมคือการ รีไฟแนนซ์ และ โปะเงินต้น ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดดอกเบี้ยและลดระยะเวลาผ่อนชำระ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจถึง รีไฟแนนซ์ และ การโปะเงินต้น ว่าคืออะไร และช่วยลดดอกบ้านได้อย่างไรบ้าง
รีไฟแนนซ์บ้าน: เปลี่ยนดอกเบี้ยให้ต่ำลง
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?
การรีไฟแนนซ์บ้านคือการนำบ้านที่กู้จากธนาคารเดิมไปกู้ใหม่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม
การทำรีไฟแนนซ์ช่วยให้คุณ ลดดอกเบี้ย และ ลดค่างวด ให้สามารถผ่อนได้ง่ายขึ้น หรือถ้าคุณต้องการจะรีไฟแนนซ์เพื่อ ลดระยะเวลา ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ทำไมถึงต้องรีไฟแนนซ์?
- ดอกเบี้ยต่ำกว่า: ถ้าคุณกู้บ้านมาได้สักระยะแล้ว และพบว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเก่าให้มีสูงเกินไป
การรีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า จะช่วยลดดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายไปในระยะยาว - ปรับระยะเวลาให้เหมาะสม: หากคุณต้องการลดค่างวด การขอรีไฟแนนซ์โดยขยายระยะเวลาเป็นตัวเลือกที่ดี
แต่ถ้าคุณสามารถผ่อนเงินก้อนใหญ่ได้ การรีไฟแนนซ์ระยะสั้นจะช่วยลดดอกเบี้ยได้มาก - เพิ่มเงินกู้: หากคุณต้องการเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น การลงทุนหรือปรับปรุงบ้าน การรีไฟแนนซ์ก็สามารถขอเพิ่มวงเงินได้เช่นกัน
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์:
- ลดอัตราดอกเบี้ย: ทำให้ผ่อนบ้านเบาลง
- ลดค่างวด: หากต้องการผ่อนน้อยลง
- สามารถขอเงินกู้เพิ่มได้: ใช้เงินที่กู้ได้เพื่อการลงทุนหรือรีโนเวทบ้าน
การโปะเงินต้น: วิธีลดดอกเบี้ยให้จ่ายเร็วขึ้น
การ โปะเงินต้น คือการนำเงินสดมาจ่ายลดจำนวนเงินกู้หรือเงินต้นที่เหลืออยู่กับธนาคาร
การโปะเงินต้นสามารถทำได้ทุกช่วงเวลา และไม่จำเป็นต้องรอให้ครบกำหนดงวด
สิ่งนี้จะช่วยลดดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายในอนาคต เพราะเมื่อเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยที่คำนวณจากเงินต้นก็จะลดตามไปด้วย
การโปะเงินต้น มีข้อดีอย่างไร?
- ลดดอกเบี้ยได้เร็ว: ทุกครั้งที่คุณโปะเงินต้น คุณจะลดดอกเบี้ยในอนาคตได้ทันที เพราะดอกเบี้ยคำนวณจากเงินต้นที่เหลืออยู่
- ลดระยะเวลาในการผ่อน: ถ้าคุณโปะเงินต้นเป็นจำนวนมากจะทำให้ระยะเวลาผ่อนบ้านสั้นลงโดยที่ค่างวดยังคงเท่าเดิม
- ลดภาระหนี้: หากคุณอยากหมดหนี้เร็ว ๆ การโปะเงินต้นเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการลดภาระ
ตัวอย่างการโปะเงินต้น:
สมมุติว่าคุณยังมีหนี้ 500,000 บาทในปีที่ 5 ของการกู้บ้าน
และอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี (0.4167% ต่อเดือน)
หากคุณโปะเงินต้น 100,000 บาท คุณจะจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงทันทีในเดือนถัดไป เพราะยอดเงินต้นลดลง
ควรเลือกวิธีไหนดี? รีไฟแนนซ์หรือโปะเงินต้น
การเลือกวิธีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคุณ:
- ถ้าคุณอยากลดดอกเบี้ยในระยะยาว การ รีไฟแนนซ์ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
- ถ้าคุณมีเงินสดก้อนและต้องการลดดอกเบี้ยในระยะสั้น การ โปะเงินต้น จะช่วยให้คุณลดภาระหนี้ได้ทันที
คุณสามารถเลือกทำทั้งสองวิธีร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด!
การรีไฟแนนซ์ช่วยให้คุณมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และการโปะเงินต้นทำให้เงินต้นลดลงเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณหมดหนี้เร็วขึ้นและประหยัดดอกเบี้ยได้มาก
ทางเลือกเสริม: ขายฝากบ้านในกรณีที่ต้องการเงินด่วน
ถ้าคุณมีบ้านแล้ว แต่ไม่สามารถจัดการกับการโปะเงินต้นหรือรีไฟแนนซ์ได้ทันที และต้องการ เงินสดด่วน
การ ขายฝากบ้าน เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้รับเงินในทันที โดยไม่ต้องเสียบ้านไป
ขายฝากบ้านทำยังไง?
- บ้านของคุณจะเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน
- คุณยังสามารถอยู่ในบ้านได้ตามปกติ
- สามารถไถ่ถอนบ้านคืนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา
หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายฝากบ้าน หรือรีไฟแนนซ์ ติดต่อเราได้ที่:
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเช็กวงเงินเบื้องต้นฟรี
โทร: 061-895-4469
หรือแชทหาเราผ่านเว็บไซต์: homeforcash.co.th
ปรึกษาก่อนตัดสินใจ ไม่ต้องขายบ้านขาดก็ได้เงินใช้
สรุป
การลดดอกบ้านไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณรู้จัก รีไฟแนนซ์ หรือ โปะเงินต้นทั้งสองวิธีนี้สามารถช่วยให้คุณประหยัดดอกเบี้ยและลดภาระหนี้ได้ในระยะยาว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินของคุณเอง และหากคุณกำลังเผชิญปัญหาการผ่อนบ้านที่หนักหน่วง หรือจำเป็นต้องใช้เงินด่วนขายฝากบ้าน อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณจัดการกับปัญหาการเงินได้อย่างรวดเร็ว